Table of Contents

แนวโน้มสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมค้าปลีกไทย: มุมมองสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2025 ถึงปี 2026

แนวโน้มอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยในปี 2569

Share

Table of Contents

อุตสาหกรรมค้าปลีกของไทยกำลังเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 กำลังเข้าสู่ปี 2569 ด้วยความพร้อมของหลายๆธุรกิจที่ต้องการการเติบโตที่ยั่งยืนและการปฏิรูปโครงสร้างครั้งใหญ่ การขยายตัวที่คาดการณ์ไว้จะมีปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งจากการเร่งตัวของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ความต้องการของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยน และการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ แนวโน้มในภาคส่วนนี้แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างความยืดหยุ่นและการปรับตัวเชิงนวัตกรรม

แนวโน้มการเติบโต: เติบโตอย่างไม่หยุดนิ่งภายใต้การปรับเปลี่ยนโครงสร้างของธุรกิจการค้า

ภาคค้าปลีกของไทยกำลังเข้าสู่ช่วงการเติบโตที่มีความโดดเด่น โดยคาดว่ายอดขายรวมจะพุ่งสูงขึ้นจาก 5.4 ล้านล้านบาทในปี 2568 ไปแตะที่ 7.1 ล้านล้านบาทภายในปี 2573 ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 5.7% นับเป็นการเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงห้าปีก่อนหน้านี้ ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนแนวโน้มบวกนี้คือการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของกำลังซื้อผู้บริโภค การขยายตัวของพื้นที่ในเขตเมือง และการเติบโตของการบริโภคในกลุ่มชนชั้นกลาง

แม้ว่าการค้าปลีกแบบออฟไลน์จะยังคงครองตลาด แต่สัดส่วนของธุรกิจค้าปลีกแบบออฟไลน์กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากช่องทางดิจิทัลยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าการค้าปลีกแบบออนไลน์จะเติบโตที่ 9.1% ต่อปี โดยได้รับแรงหนุนจากโครงสร้างพื้นฐานการจัดส่งที่ดีขึ้น การใช้งานดิจิทัลที่มากขึ้น และการขยายตัวของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Shopee, Lazada และ TikTok Shop1

รูปแบบค้าปลีกมีการเปลี่ยนแปลง: ร้านสะดวกซื้อและแหล่งช้อปปิ้งแบบผสมผสานเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน

ภาคค้าปลีกมีการเติบโตที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเกี่ยวกับธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ครองอันดับหนึ่งด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 11.1% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายเครือข่ายและการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกันที่ 7.8% CAGR ในขณะที่ห้างสรรพสินค้าซึ่งมีความสำคัญต่อทั้งการค้าปลีกและการท่องเที่ยวของประเทศ กำลังฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญด้วยการเติบโต 9.0%2 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังการระบาดใหญ่ และการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบผสมผสาน

การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคนภายในปี 2569 ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อภาคค้าปลีก โดยเฉพาะสินค้าหรูหรา สินค้าปลอดภาษี และสินค้าไลฟ์สไตล์ การฟื้นตัวนี้เด่นชัดเป็นพิเศษในพื้นที่หลัก เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญ

พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป: ให้ความสำคัญกับคุณค่าและมองหาการผสมผสานที่ลงตัว

ผู้บริโภคชาวไทยมีความเชื่อมั่นอย่างระมัดระวังแม้จะมีการคาดการณ์เศรษฐกิจที่มองโลกในแง่ดีขึ้น สาเหตุหลักมาจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศและความผันผวนทางการเงินทั่วโลก ซึ่งทำให้หลายครัวเรือนให้ความสำคัญกับการซื้อของที่จำเป็นและคุ้มค่า ส่งผลให้มีแนวโน้มการใช้จ่ายที่เน้นความคุ้มค่ามากขึ้น โดยผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสามารถในการซื้อ ความน่าเชื่อถือ และความสะดวกสบายมากกว่าการซื้อตามอารมณ์

การช้อปปิ้งแบบผสมผสาน ซึ่งผสมผสานประสบการณ์ในร้านค้าและออนไลน์ กลายเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน ผู้บริโภคมักค้นหาข้อมูลสินค้าทางออนไลน์ก่อนซื้อที่ร้านค้าจริง หรือในทางกลับกัน ผู้ค้าปลีกสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้ด้วยการผสานรวมช่องทางเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว นำเสนอราคาที่สม่ำเสมอ การมองเห็นสินค้าคงคลังที่ชัดเจน และการโต้ตอบแบบเฉพาะบุคคล

การขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ: ความสำคัญของกลยุทธ์ Omnichannel

ภูมิทัศน์การค้าปลีกของประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้รูปแบบ Omnichannel ซึ่งหลอมรวมประสบการณ์การซื้อขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน กลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ผู้ค้าปลีก ตั้งแต่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ไปจนถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ต่างหันมาใช้เครื่องมือดิจิทัลมากขึ้น เช่น การเปิดหน้าร้านบนโซเชียลมีเดีย การรับชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด และการใช้โซลูชันมาร์เก็ตเพลสแบบครบวงจร เพื่อสร้างการเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้า

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในโลกดิจิทัลกำลังเข้มข้นขึ้นอย่างมาก เพื่อให้ธุรกิจค้าปลีกประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกเป็นพื้นฐานในการปรับแต่งสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้าแต่ละราย กำหนดราคาที่เหมาะสม และสร้างความภักดีของลูกค้า เนื่องจากในปัจจุบัน ความสะดวก ความรวดเร็ว และความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้วัดความสำเร็จ

ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนโยบาย: พื้นฐานที่แข็งแกร่งเป็นแรงหนุนการเติบโต

การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น และภาคการจ้างงานในระบบที่ขยายตัว เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้กำลังซื้อของครัวเรือนในประเทศไทยดีขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ซึ่งช่วยให้ห่วงโซ่อุปทานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้ธุรกิจค้าปลีกขยายตัวจากกรุงเทพฯ ไปสู่ศูนย์กลางเมืองในภูมิภาคต่างๆ

ขณะเดียวกัน สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของผู้ค้าปลีกได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่สำคัญ เช่น การคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มงวดขึ้นและกฎหมายการค้าดิจิทัล ซึ่งทำให้ผู้ค้าปลีกต้องปรับตัวเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนด พร้อมไปกับการนำแนวทางการดำเนินงานที่สร้างสรรค์มาใช้

กลยุทธ์หลักสำหรับธุรกิจค้าปลีกในปี 2569

เพื่อรักษาการเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงนี้ ผู้ค้าปลีกชาวไทยจึงมุ่งเน้นไปที่สิ่งต่อไปนี้มากขึ้น:

  • การช่วยสร้างผลกำไรที่ให้องค์การมากกว่าการขยายธุรกิจ โดยเน้นที่การควบคุมต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  • การผสานรวมระบบเป็นระบบการทำงานแบบดิจิทัลและทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบซัพพลายเชน รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการในการตัดสินใจ
  • การนำเสนอสินค้าที่ปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะบุคคลและเฉพาะพื้นที่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายทั่วภูมิภาค
  • ผลิตภัณฑ์ที่เน้นความยั่งยืนและการมีสุขภาพที่ดีกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากผู้บริโภค เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ผู้ค้าปลีกที่สามารถใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง จะเป็นผู้ที่มีโอกาสที่ดีที่สุดในการเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปนี้

NetSuite จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกในไทยเติบโตและประสบความสำเร็จในปี 2569 ได้อย่างไร

Oracle NetSuite เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความซับซ้อนและขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล สามารถปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์อุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นี่คือบทบาทของ NetSuite ในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของประเทศไทยในภูมิทัศน์ค้าปลีกที่กำลังเปลี่ยนแปลง:

1.การค้าปลีกแบบไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยการดำเนินงานแบบครบวงจร

NetSuite Cloud ERP ป็นโซลูชันที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกในประเทศไทยบริหารจัดการการดำเนินงานทั้งแบบหน้าร้านจริงและออนไลน์ (Omnichannel/ไฮบริด) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการซิงโครไนซ์ข้อมูลสินค้าคงคลัง ยอดขาย และซัพพลายเชนให้เป็นหนึ่งเดียว ทำให้สามารถมองเห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ และช่วยป้องกันปัญหาสินค้าขาดสต็อก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจค้าปลีกในปัจจุบันที่กำลังเปลี่ยนมาใช้รูปแบบธุรกิจนี้มากขึ้น

2. รองรับการใช้งานผ่านระบบ Omnichannel และ Mobile POS

แพลตฟอร์มนี้เป็นโซลูชันแบบครบวงจรที่รวมระบบขายหน้าร้าน (POS) และอีคอมเมิร์ซเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้การสื่อสารระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งตอบโจทย์ฐานลูกค้าชาวไทยที่ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น และช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับลูกค้าภายในร้านค้าได้ดียิ่งขึ้น

3.การใช้ข้อมูลเพื่อปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าให้ตรงตามความต้องการเฉพาะบุคคล

ระบบ CRM ของ NetSuite ช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เพื่อสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาโปรแกรมความภักดี และนำเสนอโปรโมชั่นที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคล สิ่งนี้ช่วยเพิ่มการรักษาลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าได้เป็นอย่างดี

4. การขยายขนาดเพื่อรองรับธุรกิจค้าปลีกได้หลากหลายรูปแบบ

NetSuite ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นและปรับขนาดได้ ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อไปจนถึงห้างสรรพสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก ช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถขยายเครือข่ายได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องลงทุนด้านไอทีจำนวนมาก

5. การเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านผลการดำเนินงานและต้นทุน

ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในด้านการเงิน การจัดซื้อ และโลจิสติกส์ ทำให้ทีมผู้บริหารมีเวลาไปมุ่งเน้นในเรื่องนวัตกรรมและการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการคว้าโอกาสในตลาดที่เต็มไปด้วยความท้าทาย

บทสรุป

ภาคค้าปลีกของประเทศไทยคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องและใช้เทคโนโลยีเป็นกลไกขับเคลื่อนหลัก ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2568 ถึงปี 2569 เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ความสำเร็จของผู้ค้าปลีกจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการนำเครื่องมือดิจิทัลมาผสานเข้ากับความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน

Oracle NetSuite นำเสนอแพลตฟอร์มที่รวมฟีเจอร์ ERP และ CRM เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกในประเทศไทยสามารถปรับตัวให้ทันสมัย ขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและเป็นส่วนตัวตามความต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมค้าปลีกปัจจุบัน

  1. Thailand’s retail industry outlook 2025-2030, Intellify Global, https://www.intellifyglobal.com/thailand-retail-industry-outlook/ ↩︎
  2. ↩︎

Share