Table of Contents

การปรับใช้ระบบคลาวด์ในไทย : ทำไมปี 2025 จึงเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับองค์กรขนาดใหญ่

Cloud adoption in Thailand

Share

Table of Contents

บทนำ

การที่หลายองค์กรเริ่มนำระบบ Cloud มาใช้ในประเทศไทยที่มีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจดิจิทัลภายในประเทศ โดยมีองค์กรขนาดใหญ่เป็นแกนนำในการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น การมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจไปในระดับภูมิภาค และความจำเป็นในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล

การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลในประเทศไทย

การขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นดิจิทัล

การเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยนั้นมีปัจจัยพื้นฐานมาจากยุทธศาสตร์ระยะยาว เช่น แผนแม่บทเศรษฐกิจดิจิทัล 20 ปี และนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งเน้นการเร่งรัดการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 และการผลิตอัจฉริยะ โครงการริเริ่มเหล่านี้เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้สัดส่วนของเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP ของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และตอกย้ำถึงบทบาทในการกำหนดทิศทางการเติบโตที่ยั่งยืน

การสนับสนุนการปฏิรูปเทคโนโลยีจาก BOI

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยได้เสนอมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนด้านไอทีและดิจิทัล โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่นำเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 มาปรับใช้เป็นหลัก โครงการของ BOI มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ภาคธุรกิจเร่งบูรณาการระบบคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ และระบบอัตโนมัติเข้ากับการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ข้อมูลเชิงลึกและสถิติของตลาด

แนวโน้มที่ชัดเจนนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการใช้งานคลาวด์ในองค์กรธุรกิจไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้านไอทีสำหรับองค์กรและโซลูชันดิจิทัลจะขยายตัวในปี 2568 ผลสำรวจชี้ว่าองค์กรขนาดใหญ่จำนวนมากให้ความสำคัญกับการย้ายระบบคลาวด์เป็นวาระการลงทุนหลัก ประเทศไทยคาดว่าจะมีการใช้จ่ายด้านไอทีรวมเกือบ 996 พันล้านบาท (ประมาณ 29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2568 ซึ่งรวมถึงการเติบโตที่คาดการณ์ไว้เกือบ 17% สำหรับการใช้จ่ายด้านศูนย์ข้อมูล และ 16.1% สำหรับการใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์ สิ่งนี้ย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมากต่อโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และดิจิทัล

เหตุผลที่องค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทยหันมาใช้ระบบคลาวด์ในปี 2568

ประโยชน์ของการใช้ระบบคลาวด์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่นั้นมีมากมาย ดังนี้:

ความคล่องตัวของระบบและความสามารถในการปรับเปลี่ยน

เพื่อรองรับความผันผวนของระบบซัพพลายเชน การแข่งขันในภูมิภาคที่เข้มข้นขึ้น และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ความสามารถในการปรับขนาดเพื่อรองรับการเติบโต

ช่วยให้การขยายธุรกิจสู่ตลาดอาเซียนเป็นไปอย่างราบรื่น

ความคุ้มค่าด้านต้นทุน

ลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานที่มีขนาดใหญ่ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนจาก CapEx เป็น OpEx

การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ

สอดคล้องตามกฎระเบียบของประเทศไทย ข้อกำหนดด้าน ESG และมาตรฐานการรายงานระดับสากล

การส่งเสริมนวัตกรรม

การสร้างรากฐานที่สำคัญสำหรับ AI, ระบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์

Cloud ERP: รากฐานสำคัญสู่การแข่งขันในยุคดิจิทัล

Cloud ERP ช่วยให้คุณเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้ โดยเข้ามาแทนที่ระบบเดิมที่มักก่อให้เกิดปัญหาคอขวด เช่น ข้อมูลที่แยกส่วน (Data Silos), ขั้นตอนการทำงานแบบแมนนวล, และการรายงานที่ล่าช้า แพลตฟอร์ม Cloud ERP มอบ:

  • การเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำแบบเรียลไทม์
  • การทำงานร่วมกันของทุกแผนกอย่างครบวงจร
  • การปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เป็นไปตามปกติ

ด้วยเหตุนี้ Cloud ERP จึงไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในการสนับสนุนการขยายธุรกิจทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกอีกด้วย

เหตุผลที่ NetSuite เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจองค์กรในประเทศไทย

Oracle NetSuite ERP เป็นโซลูชันที่องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ในไทยให้ความไว้วางใจในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เนื่องจากโซลูชันนี้ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถ:

การปรับภาษาให้เหมาะสมกับการทำงานระดับท้องถิ่น

รองรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีและบัญชีของไทยได้ในตัว ทั้งยังมีคุณสมบัติรองรับการทำงานได้หลายภาษาและหลายสกุลเงิน

การมองเห็นที่ครอบคลุม (End-to-End Visibility)

รวมระบบการเงิน ซัพพลายเชน ทรัพยากรบุคคล และการจัดการสินค้าคงคลังไว้ในแพลตฟอร์มเดียว

ความสามารถในการปรับขนาดของระบบ

รองรับการดำเนินงานของธุรกิจทั้งในประเทศและการขยายสู่ภูมิภาคอาเซียน

การก้าวสู่การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต

ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและสภาวะตลาดได้อย่างรวดเร็ว

ความเกี่ยวข้องทางธุรกิจ

มีการนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคธุรกิจหลักของประเทศไทย เช่น การผลิต ค้าปลีก บริการ และการจัดจำหน่าย

ข้อสรุป: ในปี 2568 ระบบคลาวด์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับภาคธุรกิจไทย

เงื่อนไขเหล่านี้มีความเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เนื่องจากได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากภาครัฐและมีสิทธิประโยชน์จาก BOI

เทคโนโลยีคลาวด์เป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่งมอบความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขัน การนำ NetSuite Cloud ERP มาปรับใช้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของท้องถิ่น ขยายขนาด และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเติบโตในตลาดอาเซียนที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่สำคัญคือ องค์กรไทยที่ตัดสินใจนำระบบคลาวด์มาใช้งานอย่างจริงจังในปี 2568 จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างชัดเจน ในทางกลับกัน องค์กรที่ยังคงลังเลหรือชะลอการปรับใช้คลาวด์ อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะล้าหลังคู่แข่ง

Share