Table of Contents

15 ซอฟต์แวร์ ERP ที่ดีที่สุดในประเทศไทย – ประจำปี 2025

ERP Software Solutions in Thailand

Share

Table of Contents

บทนำ

ในปี พ.ศ. 2568 ระบบ ERP ยังคงเป็นเครื่องมือการทำงานในเชิงกลยุทธ์สำคัญสำหรับหลายๆธุรกิจในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในด้านการเงิน การดำเนินงาน และระบบซัพพลายเชน โดยการหลายๆองค์กรตัดสินใจในการเลือกใช้ระบบ ERP จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก ได้แก่ การรองรับระบบ Cloud ความสามารถในการปรับให้เข้ากับภาษาไทย มาตรฐานการบัญชีและกฎระเบียบด้านภาษีในประเทศ ความแข็งแกร่งของเครือข่ายพันธมิตร และความต้องการระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บทความนี้จะนำเสนอระบบ ERP ที่น่าสนใจ 15 ระบบสำหรับธุรกิจในประเทศไทยประจำปี 2568 โดยจะเจาะลึกถึงจุดเด่นของแต่ละระบบ พร้อมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการเลือกระบบที่เหมาะสมที่สุดกับธุรกิจของคุณ

ความสำคัญของซอฟต์แวร์ ERP ในประเทศไทยสำหรับปี 2568

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย ได้ผลักดันให้บทบาทของระบบ ERP เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากเดิมที่เป็นเพียงเครื่องมือทางบัญชี ปัจจุบัน ERP ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงาน โดยรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบ Cloud กฎระเบียบใหม่ๆ เช่น การออกใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์และการรายงานภาษี รวมถึงการขยายตัวของระบบซัพพลายเชนข้ามประเทศ

การเติบโตของตลาดนี้เด่นชัดขึ้นจากการที่ผู้จำหน่าย ERP บนคลาวด์ระดับโลกนำเสนอผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคมากขึ้น ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของโซลูชันที่ปรับแต่งได้และคุ้มค่าจากผู้ให้บริการในท้องถิ่นและจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการประกาศและการขยายความร่วมมือทั่วทั้งภูมิภาค

หลักเกณฑ์การประเมินที่ใช้ในการอัปเดตนี้มีดังต่อไปนี้

หลักเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาเลือกซอฟต์แวร์ Cloud ERP มีดังนี้:

ฟังก์ชันหลัก

การประเมินคุณสมบัติหลักของซอฟต์แวร์ ERP ได้แก่ ด้านการเงิน, การจัดซื้อ, การจัดการสินค้าคงคลัง, การผลิต, การขาย, ทรัพยากรบุคคล, และความสามารถด้านปัญญาทางธุรกิจ/การวิเคราะห์

การเปลี่ยนให้เป็นภาษาท้องถิ่น

ระบบนั้นจำเป็นจะต้องรองรับภาษาไทย ปฏิบัติตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป (GAAP) รวมถึงข้อบังคับด้านภาษีของไทย และสามารถยื่นแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

ระบบนิเวศของพาร์ทเนอร์

ในการเลือกพาร์ทเนอร์ทางด้านธุรกิจ ควรพิจารณาถึงความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเฉพาะของคุณ ข้อตกลงระดับบริการ (SLA) ที่ครอบคลุมสำหรับการสนับสนุน และการดำเนินงานในพื้นที่

ความสามารถในการปรับขยายและราคา

พิจารณาต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของอย่างละเอียด ซึ่งครอบคลุมค่าลิขสิทธิ์ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และค่าบริการต่อเนื่อง

การผนวกรวมและต่อยอดระบบ

ตรวจสอบ API แอปพลิเคชันตลาด และฟีเจอร์ AI ในตัวที่มีอยู่

15 สุดยอดซอฟต์แวร์ ERP ในประเทศไทยสำหรับปี 2025

1. Oracle NetSuite

จุดเด่น: การผสานรวมระบบ Cloud Native ที่มาพร้อมโมดูลทางในด้านการเงิน สินค้าในคลัง และเรื่องระบบพาณิชย์ที่ครบวงจร เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีบริษัทสาขาหรือต้องการขยายสู่ระดับภูมิภาค

เหมาะสำหรับ: บริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการการปรับใช้คลาวด์อย่างรวดเร็วและการรวมระบบหลายสกุลเงิน

หมายเหตุสำหรับประเทศไทย: NetSuite มีสำนักงานในประเทศไทยและเครือข่ายพาร์ทเนอร์สำหรับให้บริการในเรื่องการปรับใช้ระบบและการสนับสนุนในระดับท้องถิ่น

2. SAP S/4HANA

จุดเด่น: SAP มีฟังก์ชันการทำงานระดับองค์กรที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยโมดูลการผลิตและการค้าปลีกที่ล้ำลึก รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจขนาดใหญ่

เหมาะสำหรับ: ผู้ผลิตขนาดใหญ่ บริษัทข้ามชาติ และเครือข่ายค้าปลีก

หมายเหตุสำหรับประเทศไทย: SAP ยังคงพัฒนาบริการคลาวด์สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง โดยที่องค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทยยังคงเลือกใช้ S/4 สำหรับการดำเนินงานระดับโลกที่ซับซ้อน

3. Microsoft Dynamics 365 (Business Central / Finance & Ops)

จุดเด่น: ผสานรวมกับ Microsoft Ecosystem (Office, Power Platform) ได้อย่างราบรื่น, ใบอนุญาตแบบโมดูลาร์, เหมาะสำหรับ SMB และองค์กรขนาดใหญ่

เหมาะสำหรับ: องค์กรทุกขนาดที่ใช้ Microsoft Stack และต้องการความยืดหยุ่น

หมายเหตุสำหรับประเทศไทย: มีพันธมิตรและตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ที่นำ Business Central และ Finance & Operations มาใช้งานสำหรับลูกค้าในประเทศไทย

4. Odoo

จุดเด่น: ระบบแบบ Open source ที่มีแอปพลิเคชันหลากหลาย (CRM, POS, การผลิต) สามารถปรับแต่งได้สูงและคุ้มค่า

เหมาะสำหรับ: SMEs ที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่รวดเร็วและเวิร์กโฟลว์ที่ปรับแต่งได้

ข้อควรทราบสำหรับประเทศไทย: Odoo มีเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่ได้รับการรับรองซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย

5. Infor (CloudSuite)

จุดเด่น: โดดเด่นด้านการจัดการระบบซัพพลายเชนและการบริการต่างๆ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของอุตสาหกรรมการผลิตและการจัดจำหน่าย

เหมาะสำหรับ: ผู้ประกอบการในภาคการผลิตและจัดจำหน่ายที่กำลังมองหาโซลูชันที่ตรงกับลักษณะธุรกิจเฉพาะของตน

6. Epicor

จุดเด่น: เน้นการผลิตและการจัดจำหน่าย การผสานรวมระบบภายในโรงงาน และความเข้ากันได้กับระบบ MES

เหมาะสมสำหรับ: ผู้ผลิตแบบแยกส่วนและบริษัทในภาคอุตสาหกรรม

7. Kingdee (และผู้จำหน่าย ERP สัญชาติจีนอื่นๆ)

จุดเด่น: โดดเด่นด้านราคาที่เข้าถึงได้ มีการพัฒนาฟีเจอร์คลาวด์และ AI อย่างรวดเร็ว มีความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจ SME และการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เหมาะสำหรับ: บริษัทที่กำลังมองหาโซลูชัน ERP บนคลาวด์ที่คุ้มค่า พร้อมการสนับสนุนในระดับภูมิภาค

หมายเหตุสำหรับประเทศไทย: Kingdee กำลังขยายเครือข่ายพาร์ทเนอร์ในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

8. Yonyou (UFIDA)

จุดเด่น: ครอบคลุมพื้นที่เอเชียแปซิฟิก (APAC) เป็นวงกว้าง, มีโมดูล ERP ให้เลือกหลากหลาย และสามารถปรับแต่งให้เข้ากับตลาดเอเชียได้

เหมาะสำหรับ:บริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

9. QAD / IFS / Other industry ERPs

จุดเด่น: รองรับการทำงานในอุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจงและซับซ้อน เช่น ยานยนต์ อวกาศ และธุรกิจที่ใช้สินทรัพย์จำนวนมาก

เหมาะสำหรับ: ผู้ผลิตสินค้าเฉพาะทางและธุรกิจที่ต้องลงทุนสูง

10. Sage / Exact / Localised International Offerings

จุดเด่น: มีความสามารถที่แข็งแกร่งด้านการเงินและการบัญชี เหมาะสำหรับตลาดขนาดกลาง และเป็นที่รู้จักในหมู่บริษัทที่ต้องการเปลี่ยนจากระบบบัญชีแบบเก่า

เหมาะสำหรับ: ธุรกิจ SMEs ที่กำลังขยายและต้องการรองรับการดำเนินงานแบบหลายหน่วยงาน (โดยมีตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ที่ปรับแต่งแพ็คเกจให้เข้ากับประเทศไทย)

11. Local Thai ERP vendors & consultants (examples)

จุดเด่น: รองรับภาษาไทยได้ดีเยี่ยม, ราคาคุ้มค่า, และติดตั้งใช้งานได้รวดเร็ว

เหมาะสำหรับ: ธุรกิจ SMEs และบริษัทในประเทศที่ต้องการโซลูชันที่สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านภาษีและกฎระเบียบของไทย รวมถึงประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ที่เป็นมิตร

หมายเหตุ: ในปี 2568 ประเทศไทยจะมีรายชื่อผู้ติดตั้งและตัวแทนจำหน่าย ERP ในท้องถิ่นเพิ่มเติม

12. Cloud accounting & SME platforms (e.g., FlowAccount, Xero presence)

จุดเด่น: ระบบมีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับ SME ที่เน้นการจัดการด้านการเงินโดยเฉพาะ มักใช้เป็นโซลูชันชั่วคราวเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ระบบ ERP ที่สมบูรณ์

กลุ่มเป้าหมาย: ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมที่ต้องการระบบรองรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการออกใบแจ้งหนี้เป็นหลัก มากกว่าระบบ ERP เต็มรูปแบบ

13. Vertical / Niche ERPs & MES integrators

จุดเด่น: โซลูชันที่ปรับแต่งมาเพื่อธุรกิจค้าปลีกที่มีเครือข่าย POS ธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) หรือการจัดการบัญชีสำหรับโครงการก่อสร้างโดยเฉพาะ

เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ต้องการโซลูชันเฉพาะทางเพื่อสร้างมูลค่าได้อย่างรวดเร็ว

14. Open source stacks & custom ERP projects

จุดเด่น: มีความยืดหยุ่นสูงและค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธิ์ต่ำ (แต่ต้องใช้ความพยายามในการติดตั้งมาก)

เหมาะสำหรับ: องค์กรที่มีทีมพัฒนาภายใน หรือมีความต้องการเฉพาะสำหรับกระบวนการทำงาน

15. New entrants & AI-first ERP modules (startups)

จุดเด่น: ระบบมีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และรวดเร็ว พร้อมทั้งใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านระบบอัตโนมัติ เช่น แอปพลิเคชันเงินสดอัจฉริยะและการคาดการณ์

เหมาะสำหรับ: ผู้เริ่มต้นใช้งาน รวมถึงบริษัทที่ต้องการนำระบบ AI อัตโนมัติมาปรับใช้กับระบบการเงินและซัพพลายเชน

ปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกซอฟต์แวร์ ERP สำหรับผู้ซื้อในประเทศไทย:

ขั้นตอนในการเลือกซอฟต์แวร์วางแผนทรัพยากรองค์กร หรือ ระบบ ERP ที่เหมาะสมในประเทศไทย มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญดังต่อไปนี้:

ขอบเขตทางธุรกิจ

ประเมินจำนวนนิติบุคคล สกุลเงินที่ใช้ (สกุลเงินท้องถิ่นเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศ) รูปแบบการดำเนินงาน (ในประเทศเทียบกับการส่งออก) และประมาณการเติบโตของธุรกิจ

การปฏิบัติตามข้อกำหนดท้องถิ่น

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์ ERP ที่เลือกสามารถรองรับข้อกำหนดเฉพาะของประเทศไทย เช่น ภาษาไทย ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) การออกใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ และกฎระเบียบการหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยอาจทำได้โดยตรงในตัวซอฟต์แวร์หรือผ่านโปรแกรมเสริมจากพันธมิตร

การประเมินพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการ

การเลือกพาร์ทเนอร์ที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในประเทศไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง นั้นเป็นเรื่องที่ดีเสมอ นอกจากนี้ ควรพิจารณาข้อตกลงระดับการให้บริการ (SLA) ที่มีความมั่นคง เพื่อให้มั่นใจถึงการสนับสนุนที่มีคุณภาพ สามารถใช้แหล่งข้อมูลอย่างไดเรกทอรีที่ปรึกษาท้องถิ่นและแพลตฟอร์มรีวิว เช่น Clutch เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

ต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO)

นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตซอฟต์แวร์ ควรพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการผสานระบบ การย้ายข้อมูล การฝึกอบรมทีมงาน การจัดการการเปลี่ยนแปลง และค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง

การวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ

เลือกผู้ให้บริการที่มีแผนงานรองรับการประมวลผลแบบ Cloud  ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และระบบการวิเคราะห์ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของคุณในอีก 2-5 ปีข้างหน้า

ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

ต้องมีกรอบการทำงานด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุม ตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูล และโปรโตคอลการกู้คืนระบบหลังภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ

แนวโน้มซอฟต์แวร์ ERP ในประเทศไทย: จับตาปี 2568–2570

นี่คือการอัปเดตเกี่ยวกับแนวโน้มสำคัญของซอฟต์แวร์ ERP ในประเทศไทยสำหรับปี 2025:

การผสานรวม AI และระบบอัตโนมัติ

ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ ERP ได้นำระบบ AI มาใช้เพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับความสามารถในการคาดการณ์, การจัดการเงินสด, และการตรวจจับความผิดปกติ.

ERP แบบประกอบเข้ากับระบบอื่นๆได้

องค์กรต่างๆ กำลังเปลี่ยนจากการใช้ระบบ ERP แบบดั้งเดิมที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว มาใช้วิธีการที่ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยการผสานรวมบริการคลาวด์ชั้นนำต่างๆ ผ่านระบบ API

การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ

รัฐบาลไทยมีแนวโน้มที่จะออกกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการรายงานภาษีและการออกใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการปรับปรุงและการนำโซลูชันเสริมในประเทศมาใช้

การแข่งขันในระดับภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น

คาดการณ์ว่าการแข่งขันจากผู้จำหน่ายในจีนและภูมิภาคอื่นๆ จะรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีการขยายเครือข่ายพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นทั้งในด้านราคาและประสิทธิภาพ

บทสรุป

ในปี 2568 ตลาด ERP ของประเทศไทยมีความหลากหลาย โดยมีตัวเลือกมากมายให้ธุรกิจได้เลือกใช้ ตั้งแต่ผู้นำระดับโลกอย่าง SAP, Oracle NetSuite และ Microsoft ไปจนถึงแพลตฟอร์ม Open Source เช่น Odoo รวมถึงชุดซอฟต์แวร์เฉพาะทางสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม และผู้ให้บริการในท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

การเลือกโซลูชัน ERP ที่เหมาะสมที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่ ขนาดขององค์กร ความซับซ้อนของอุตสาหกรรม งบประมาณที่กำหนดไว้ และคุณภาพของพันธมิตรผู้ติดตั้งระบบในพื้นที่ สำหรับธุรกิจในประเทศไทยส่วนใหญ่ กลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จนั้นประกอบด้วยการมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน การพิจารณาปรับโครงสร้างองค์กรให้เข้ากับข้อกำหนดและบริบทของท้องถิ่นอย่างรอบคอบ และการเลือกพันธมิตรที่มีประวัติผลงานที่พิสูจน์ได้ในการส่งมอบระบบที่ประสบความสำเร็จ

Share