องค์กรที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมักประสบกับข้อจำกัดที่สำคัญ นั่นคือความยากลำบากในการผสานรวมแอปพลิเคชันและข้อมูลเข้าด้วยกัน การเชื่อมต่อระบบแบบจุดต่อจุดที่ล้าสมัยและกระบวนการที่ต้องดำเนินการด้วยตนเองเหล่านี้ส่งผลให้เกิดปัญหาข้อมูลกระจัดกระจาย มีข้อผิดพลาด และเพิ่มภาระงานให้กับทีมไอทีมากเกินไป ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมและทำให้ลูกค้าสับสน
ผลการศึกษา Total Economic Impact (TEI) ล่าสุดที่จัดทำโดย Forrester Consulting เพื่อ Celigo ได้ให้คำตอบที่น่าสนใจสำหรับความท้าทายด้านการบูรณาการข้อมูลที่เป็นสากล การศึกษานี้รวบรวมประสบการณ์จากองค์กรหลายแห่ง และสรุปว่า Celigo Integration Platform ไม่เพียงแต่แก้ไขปัญหาทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่สูงถึง 383% และมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ที่ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสามปี
แพลตฟอร์มการรวมระบบสามารถสร้างผลตอบแทนทางการเงินที่น่าทึ่งเช่นนี้ได้อย่างไร? รายงานของ Forrester ได้อธิบายถึงแนวทางที่องค์กรสามารถเปลี่ยนจากการดำเนินงานที่กระจัดกระจายและมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ไปสู่การเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัว ใช้ระบบอัตโนมัติ และยืดหยุ่น ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์ม iPaaS แบบ low-code ที่ครอบคลุม ในบทความนี้ เราจะมาตรวจสอบผลการค้นพบที่สำคัญจาก TEI ของ Forrester
ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากระบบที่ไม่ได้เชื่อมต่อกัน
ก่อนที่ธุรกิจจะตัดสินใจลงทุนในระบบแพลตฟอร์ม Celigo Integration องค์กรที่เข้าร่วมการสำรวจได้ค้นพบกับความท้าทายด้านการปฏิบัติงานที่สำคัญ เนื่องจากกระบวนการทางธุรกิจของพวกเขายังคงเป็นแบบแมนนวลอย่างสมบูรณ์ หรือมีการนำระบบอัตโนมัติมาใช้บางส่วนด้วยเครื่องมือที่ล้าสมัย สภาพแวดล้อมการทำงานแบบเดิมนี้เป็นสาเหตุของปัญหาหลายประการ:
ข้อจำกัดด้านเทคนิค
โซลูชันการรวมระบบแบบเดิม ๆ มักมีปัญหาในการใช้งาน จำเป็นต้องพึ่งพานักพัฒนาผู้เชี่ยวชาญ และขาดความยืดหยุ่นในการปรับขนาด
ข้อผิดพลาดของข้อมูลที่สามารถพบได้บ่อย
การป้อนข้อมูลด้วยมือโดยใช้สเปรดชีตเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไป แต่ก็มักจะนำไปสู่ข้อผิดพลาด ข้อมูลซ้ำซ้อน และระบบหยุดชะงัก ซึ่งเป็นปัญหาที่รองประธานฝ่ายไอทีของบริษัทเภสัชกรรมแห่งหนึ่งกล่าวถึง โดยระบุว่า “การบริหารจัดการข้อมูลเหล่านี้เริ่มทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ…สำหรับทีมปฏิบัติการขนาดเล็กของเรา”
ทีมไอทีมีงานล้นมือ
ทีมไอทีขนาดเล็กต้องใช้เวลาไปกับการแก้ไขปัญหาการผสานรวมระบบอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับโครงการริเริ่มทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น การขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ประสบการณ์ลูกค้าที่ไม่ดี
ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเป็นสาเหตุของความเสียหายทางธุรกิจที่ชัดเจน เช่น การสูญเสียคำสั่งซื้อ การเรียกเก็บเงินลูกค้าผิดพลาด และการจัดส่งที่ล่าช้า ซึ่งส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของแบรนด์อย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีโซลูชันแบบรวมศูนย์ที่ใช้งานง่าย เพื่อแก้ไขปัญหาข้อมูลกระจัดกระจาย เสริมสร้างศักยภาพทีมงานภายใน และลดค่าใช้จ่ายในการขยายระบบ
ผลประโยชน์ที่วัดผลได้: เส้นทางสู่ 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากผลการวิจัยของ Forrester การประเมินผลประโยชน์ที่สำคัญหลายประการของ Celigo Integration Platform ซึ่งส่งผลให้องค์กรมีมูลค่าผลประโยชน์รวมที่ปรับตามความเสี่ยงแล้วอยู่ที่ 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กำไรที่เพิ่มขึ้น: $246,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Celigo มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มรายได้โดยตรง ด้วยการผสานรวมระบบอย่างราบรื่น ช่วยให้กระบวนการสั่งซื้อและชำระเงินดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งอัปเดตสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังช่วยให้สามารถเปิดตัวช่องทางรายได้ใหม่ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น บริการ “ซื้อออนไลน์ รับสินค้าที่ร้าน” (BOPIS) การดำเนินการเหล่านี้ช่วยเพิ่มรายได้ 3% ให้กับช่องทางที่ได้รับผลกระทบ โดยสามารถขจัดความผิดพลาดและความล่าช้าที่มีค่าใช้จ่ายสูงออกไปได้
หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบการผสานรวม: 458,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สภาพแวดล้อมการทำงานและการวางระบบแบบ low-code ของ Celigo Integration Platform กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทีมไอทีสามารถติดตั้งระบบ ผสานรวมระบบ และเปลี่ยนระบบเดิมให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติได้รวดเร็วขึ้นถึง 50% จากงานที่เคยมีความซับซ้อนและต้องใช้เจ้าหน้าที่ไอทีสองคนทำนาน 30 วัน ตอนนี้สามารถทำให้เสร็จสิ้นได้ในเวลาเพียงครึ่งเดียว นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังช่วยให้การผสานรวมเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ใช้งานทางธุรกิจ ทำให้พวกเขาสามารถสร้างกระบวนการทำงานที่ไม่ซับซ้อนได้เอง ซึ่งเป็นการช่วยประหยัดทรัพยากรไอทีที่มีค่า เพื่อนำไปใช้กับงานเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญยิ่งกว่า
การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจ: 252,000 ดอลลาร์สหรัฐ
การเปลี่ยนกระบวนการที่ต้องทำซ้ำๆ ด้วยตนเองให้เป็นระบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตสินค้าในคลัง การทบยอดทางการเงิน หรือการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ จะช่วยให้พนักงานได้รับเวลาอันมีค่ากลับคืนมา จากการศึกษาพบว่าผู้ใช้งานทางธุรกิจที่ได้รับผลกระทบสามารถประหยัดเวลาได้มากกว่า 100 ชั่วโมงต่อปี ซึ่งสามารถนำไปจัดสรรเพื่อทำกิจกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวมเพิ่มขึ้น
ลดต้นทุนในการแก้ไขข้อผิดพลาดด้านข้อมูล: 105,000 ดอลลาร์สหรัฐ
แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ระบบอัตโนมัติและแดชบอร์ดส่วนกลางลดความคลาดเคลื่อนของข้อมูลลงได้ถึง 50% และลดเวลาที่ต้องใช้ในการแก้ไขปัญหาได้ถึง 83% ผู้ใช้งานทางธุรกิจจึงสามารถจัดการงานที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีให้เสร็จสิ้นได้ภายใน 30 นาที ด้วยความสามารถในการมองเห็นที่ชัดเจนและการตรวจจับข้อผิดพลาดด้วย AI
การลดค่าใช้จ่าย: ประหยัดต้นทุน 329,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากการยกเลิกใช้เทคโนโลยีเดิม
การที่หลายองค์กรเปลี่ยนมาใช้ Celigo Integration Platform เพียงแพลตฟอร์มเดียวแทนเครื่องมือผสานรวมแบบเดิมหลายรายการ ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าบำรุงรักษาเท่านั้น แต่ยังลดความยุ่งยากในการจัดการและการดูแลรักษาระบบที่แตกต่างกันจำนวนมากอีกด้วย
ผลตอบแทนที่มากกว่าตัวเลข: ประโยชน์เชิงกลยุทธ์
นอกจากผลประโยชน์ที่วัดเป็นตัวเลขได้อย่างน่าทึ่งแล้ว รายงานของ Forrester ยังได้เน้นถึงข้อได้เปรียบที่สำคัญในเชิงคุณภาพ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากคุณค่าการทำงานเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ความสามารถด้าน AI ในแพลตฟอร์มของ Celigo ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการลดความซับซ้อนของงานที่ซับซ้อน โดยใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics) การจัดทำแผนที่ข้อมูลอัจฉริยะ (Intelligent Data Mapping) และการบันทึกขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติ (Automated Workflow Recording)
ยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า
การเข้าถึงข้อมูลสินค้าในคลัง ราคาของสินค้า และการจัดการกับคำสั่งซซื้อของลูกค้านั้นสามารถทำได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้องค์กรสามารถลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการขายสินค้าเกินและช่วยจัดการกับปัญหาการทำสต๊อคสินค้าได้อย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่น่าเชื่อถือและน่าพอใจยิ่งขึ้น
การตัดสินใจที่เร็วขึ้นและมีข้อมูลที่มีการรองรับ
การผสานรวมข้อมูลที่ไร้รอยต่อทำให้ทีมการเงินและฝ่ายบริหารเข้าถึงรายงานที่ถูกต้องและทันเวลาได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พวกเขาสามารถตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญ เช่น การปรับราคา ได้เร็วกว่าเดิมหลายสัปดาห์
การลงทุนที่ควบคุมได้และให้ผลตอบแทนที่สูงมาก
ในด้านต้นทุน การลงทุนสามปีคำนวณไว้ที่ 287,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกตามจุดสิ้นสุดและขั้นตอนการทำงาน บริการระดับมืออาชีพเบื้องต้น และต้นทุนภายในในการติดตั้งและจัดการ ซึ่งผู้ให้สัมภาษณ์ระบุว่าเป็น “การลงทุนที่ใช้เวลาน้อยที่สุด” ความสะดวกในการใช้งานของแพลตฟอร์มยังหมายความว่าค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมนั้นแทบไม่มีนัยสำคัญ โดยผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้อย่างเชี่ยวชาญภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
การลงทุนดังกล่าวสร้างผลประโยชน์ถึง 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่สูงถึง 383% และมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ที่ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนและไม่อาจปฏิเสธได้ ตามคำกล่าวของรองประธานฝ่ายไอทีของบริษัทยากล่าวสรุปว่า “ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ได้จากแพลตฟอร์ม Celigo นั้นเกิดขึ้นทันที ไม่จำเป็นต้องรอถึง 10 ปีเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า นี่คือชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่สำหรับองค์กรของเรา”
บทสรุป: ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือผสานรวม แต่เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโต
รายงานการศึกษา Total Economic Impact (TEI) ของ Forrester พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แพลตฟอร์มการผสานระบบ Celigo (Celigo Integration Platform) ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือทางเทคนิคเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าอย่างมาก ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ ขับเคลื่อนการเติบโต และช่วยให้ธุรกิจมีความพร้อมสำหรับอนาคต
Celigo เชื่อมโยงและรวมข้อมูลเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมศักยภาพให้ทั้งทีมไอทีและฝ่ายธุรกิจ สร้างกระบวนการทำงานที่ราบรื่น และวางตำแหน่งองค์กรให้สามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในภูมิทัศน์ดิจิทัลยุคใหม่ สำหรับธุรกิจที่ต้องการก้าวข้ามความซับซ้อนในการผสานรวม และบรรลุผลผลิตและผลกำไรในระดับใหม่ แพลตฟอร์มนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จที่มั่นคงทางการเงินและน่าสนใจ







